วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

ระลึกถึงวันเก่า เมื่อครั้ง "ทำมากกว่ารัก แต่ไม่ได้ทำ"

ผมรู้สึกชอบเธอตั้งแต่ตอนเจอกัน ตอนนั้นเป็นตอนรับน้อง
ชอบในความนิ่งๆ เฉย ซื่อๆ จริงใจ เสียดายที่เราไม่ใช่คนหน้าตาดี ฐานะก็ไม่ดีพอ
ก็คบแบบเพื่อนกันมา เธอก็รู้ใครก็รู้ว่าผมชอบเธอ
ไม่งั้นป่านนี้เราอาจจะรักกันยืดยาว มาและมีลูกมากมายไปแล้ว

แต่ก็ไม่อยากไปเสียเวลา เพราะต้องเรียนหนังสือให้จบๆ ไป
ไม่อยากรบกวน เห็นหน้าทีไรก็บาดใจทุกครั้ง
คนมันชอบ มันถูกใจน่ะนะ จนเราสนิทกันมากขึ้น
เธอก็ไปเป็นแฟนในกลุ่มที่เรียนด้วยกัน
ใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวกันน่าดุ ไปเยี่ยมเยียนบ้านกันมาแล้ว
ตอนนั้นเราก็มีเศร้าใจบ้าง ตัดใจไปนานแล้ว เฮ้อเรามันไม่ดีพอ
จนเธอเลิกเด็ดขาด ในระหว่างที่เรียน

โดยเรื่องระหว่างเราสองคนในเวลาต่อมา
ก็สนิทกันตามลำดับ ตามภาระเวลาที่เรียนด้วยกัน
จนเรียนจบ เธอกับผม ก็มีอะไรที่เปิดใจกันมามากขึ้น แต่ก็ยังไม่ชัดเจนอะไร
เพราะเราก็เกรงใจเพื่อนๆ ในกลุ่ม และมีเพื่อนสนิทที่ชอบเธออยู่อีก
เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นหมาหวงก้างอีก เลยไม่กล้าอะไรกันมาก
ก็เลยแวะไปหาสาวๆ นอกมหาลัย ที่มาจากบ้านเดียวกัน หรือเพื่อนแนะนำให้บ้าง
ตามเรื่องตามราว แต่ก็ไม่ได้ผูกพันทางใจมาก แค่ฉิวๆ ตามลีลาของผม


จนวันหนึ่ง เมื่อเรียนจบ ผมก็ตัดสินใจไปมาหาสู่เธอ จริงจังมากขึ้น
เพราะรู้สึกว่าเรียนจบแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรกับเธอเป็นชิ้นเป็นอัน

ผมจึงบอกชอบเธอ และรักเธอ เธอก็บอกรักผม
เราเลยพาครอบครัวเธอและผม ของทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน
ตกลงกันแล้ว เพื่อจะได้แสดงความเป้นเจ้าของตามระเบียบประเพณี
โดยไม่มีเพื่อนๆ คนใดในกลุ่มเรารู้
เราต่างไม่กล้าบอกเพื่อนๆ ทั้งนั้น
และยังเป็นความลับอยู่จงบจนทุกวันนี้และจะเป็นไปตลอดไป


ตอนนั้นมันเป็นโลกของเราสองคน เดินทางกลับบ้านเธอด้วยกัน
เราอยู่ใกล้ ทำอะไรด้วยกัน หลายอย่าง ตามสมควร มันเสมือนทำได้ใน

สิ่งที่ตั้งใจไว้สมัยเรียนปีหนึ่ง
ตอนนั้น เธอกำลังหางานทำ และใกล้จะได้งาน ผมก็พาเธอไปสมัครงานด้วย
ก็พาเธอไปกิน ไปเที่ยวกินดื่มตามอัตตภาพ จนเธอเข้าทำงานแล้ว
ผมขึ้นไปหาเธอบ่อย ที่หอของเธอ เรียกว่ากำลังติดพัน กำลังศึกษาเพื่อเตรียมจะอยู่ด้วยกันก็ได้นะ

จนมาคืนหนึ่ง เราค้างคืนด้วยกันเพียงสองคน เรานอนอยู่ด้วยกัน ไม่ได้ทำอะไรกัน
(ไอ้ผมเองก็ไม่ใ่ชหนุ่มซิงๆ หรือไม่ประสีประสา เคยมาแล้วด้วย บ่อยๆ ทั้งเที่ยวและกับวัยเดียวกัน แต่กับเธอไม่ใช่อย่างนั้น)
ผมขอนอนข้างล่าง นอนก็นอนไม่หลับทั้งสองคน ไม่ได้ทำอะไรเธอ
เพราะตอนนั้นผมเริ่มคิดอะไรหลายๆ อย่างแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ไม่น่าจะใช่
(และต่อมาก็ไม่ใช่จริงๆ เป็นคนมีญาณพิเศษ แต่เรื่องนี้ มันไม่น่ามาเรื่องมากตอนนั้น โดยปรกติ น่าจะเอาๆ ไปก่อนก็ตาม)
จนเช้ามืด เธอลุกมาเข้าห้องน้ำ เธอทำเสียงบ่นทำนองผิดหวัง (ตั้งแต่นั้นมาสองเราก็ห่างไกลออกไป)
เพราะบรรยากาศที่อยุ่กันสองคนเพียงลำพัง ในห้องอพาร์ทเม้นต์ เงียบสงัด ความจริงน่าจะไซร้กอดจูบ และเล้าโลมเธอ
แต่ผมก็ไม่ได้ทำ ไม่ใช่ไม่กล้า หรือไม่คิด แต่ห้ามใจไว้ได้เพราะรู้สึกว่า ยังไม่ใช่ ยังไม่ควร


ยอมรับว่า ขณะนั้น สองจิตสองใจ ว่าจะเสียความเป็นเพื่อนไหม หรือจะได้เสียกันไปเลยดี
และก็กลัวความไม่แน่นอนหลายๆ อย่าง รวมทั้งไม่อยากเอาเปรียบเธอด้วย
หลังจากนั้น เราก็ห่างกันไป จนวันนึงเห็นเธอมีคนใหม่มาดูแลเรียบร้อยแล้ว
และคงจะสมใจเธอทุกอย่าง ก็สบายใจ ลากลับไม่ไปหาเธออีกเลย

เพราะเราก็มีสาวใหม่ๆ มาทอดสะพาน จนเธอมีใหม่ และผมก็เลือกแล้ว จนตัดสินใจมีใหม่
หลังจากนั้น ไม่นานเราสองคนต่างก็แยกย้าย ห่างกันไป จนแต่งงานมีคุ่ครองกันไปหมดแล้ว
ทุกวันนี้ไม่เจอกันแล้ว เคยโทรคุยกันบ้าง แม้จะไม่เคยพูดถึงเรื่องที่เกิด แต่สองเราก็ทราบกันดี
และเธอก็รู้ว่าผมไม่ใช่คนที่ชอบเปิดเผย เรียกว่าเก็บความลับได้ดี

หรือวันใดถ้าเธอมาอ่านเจอ ขอให้รู้ว่า คือ ผมไม่ได้เสียดายอะไร
แต่ดีใจที่เธอและผม ต่างก็ไปมีครอบครัวที่มีความสุข ไม่มีรอย ไม่มีเรื่องราวต่อกัน
ดีใจจริงๆ นะ ยังไงก็ยังเป็นเพื่อนกันแค่นั้น ยังเจอหน้ากันได้ไม่ได้สร้างแผลในใจให้กัน
ไม่มีอะไรเกินเลยเข้าไปในเกินความเป็นเพื่อน
รับรองได้ด้วยเกียรติที่มีอยู่

ส่วนตัวผมเอง ก็มีแฟนที่สวยกว่า ดีกว่าจริงๆ อย่างที่ตั้งใจ ทั้งนิสัยและอีกหลายๆ อย่าง
เพราะผมเทียบข้อต่อข้อ แบบไม่มีอคติ
ภูมิใจทุกครั้ง ที่ได้เจอเธอคนนี้ คนที่เป็นทุกอย่างของชีวิตผม

ขอวกกลับไป อย่างน้อย
"ผมเคยคิดไว้ตอนสมัยเรียนว่า วันหนึ่งคงจะไปคุยกับพ่อเธอ คุยกับแม่ ที่บ้านเธอ ก็ทำได้แล้ว แม้จะห่างกันจนรอเรียนจบ
แม้นไม่ได้รักษาไว้ให้ยืนยาว คงเป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต จริงๆ แต่ก็ภูมิใจถือว่าได้ทำตามที่ต้องการแล้ว"
ก็ดีใจนะที่อย่างน้อย ครั้งหนึ่ง เราเคยชนะใจกันและกัน เข้าใจกัน ได้ตามความเหมาะสม
แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่แผ้วผ่าน บนความสัมพันธ์สายใยแห่งความเป็นเพื่อนไปตลอดกาล


แต่ผมก็รู้สึกผิด แต่ไม่ใช่ในจุดที่ผมไปเอาเปรียบเธอ หรืออดได้เธอแล้ว หรือไปทอดทิ้งเธอ
แต่รู้สึกในส่วนที่อธิบายไม่ได้ต่อความเป็นเพื่อนของเรา
จึงถอยฉากห่างไป แต่ก็ไม่ได้ละอายใจ หรือไม่กล้าสู้หน้า
เพียงแต่ว่า อยากจะหมุนผ่านบางอย่างไป ให้หายไปกับกาลเวลา
ก็เท่านั้นเอง ที่มาเขียนไว้เพื่อเป้นวิทยาทานเผื่อใครจะมีร่องรอยชีวิตเหมือนกัน จะได้เรียนรู้กันไป
ผมอาจจะไม่ใช่คนดีที่สุด หรือสุภาพบุรุษมากมายอะไร แต่ก็มีความภูมิใจในสิ่งที่ทำลงไป แม้จะไม่ได้ดีเด่นอะไรก็ตาม

เคยนึกถึงหลายบทเพลงตลอดเวลาที่เราต่างมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน
เพลงหนึ่งที่ผมจดจำได้ดี มีเนื้อหา เสียงร้องได้ใจ คือเพลง (เพราะเราไม่ได้ทำมากกว่ารัก ทั้งๆ ทีมีโอกาสจะทำ)
"รักไม่ได้"
ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงไม่ลืมเธอ
มีเธอในใจฉันเสมอไม่เข้าใจ
อยากกอดเธอเอาไว้ สักเท่าไร
แต่หัวใจ ฉันก็รู้ดี จูบเธอได้ในฝัน
เท่านี้ แค่นี้ เพียงข้างในใจ

รักไม่ได้ บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไหร่ก็ต้องหยุดไว้เอง

เป็นบททดสอบของเบื้องบน ให้ค้นหาหัวใจ
ส่งมาให้ตัวฉันข้ามไป
อยากจะลองใจฉันหรือเปล่า
จะได้รู้ว่ารัก ลึกแค่ไหน
ให้เห็นเงา สะท้อนหัวใจ
เก็บเธอไว้แค่ฝัน ได้ไหม
เพราะหัวใจฉันก็เสียดาย

รักไม่ได้ บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไหร่ก็ต้องหยุดไว้เอง

รักไม่ได้ บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไหร่ ก็รักไม่ได้
บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไหร่ก็ต้องหยุดไว้เอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น